Tuesday, September 11, 2007

นายแม่ อิน ออสซี่ ตอนที่ 4.2 - เมือง "อ้วก" ยังมีต่อ

วันที่ 2 ของทริปนี้ เป็นวันเสาร์ ชาวเราวางแผนกันจะไปดู Great Barrier Reef อยากเห็นว่ามันหน้าตาเป็นไง จำได้ว่าเคยเรียนตอนอยู่ประถมว่า เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยากจะรู้นักว่า มันจะใหญ่ซักแค่ไหน เค้าบอกว่า มันเป็น World Heritage ซะด้วย เมืองนี้ World Heritage เยอะจริงๆ

เช้ามาเราก็ไปขึ้นเรือซึ่งมีหลายเจ้าที่พาไปดู เราจองไว้เป็นของ Quicksilver คิดว่าน่าจะเป็น Quick เดียวกะที่ขายเสื้อผ้าแนว Surf นั่นแหละ แต่ไม่รู้ อะไรมาก่อนมาหลัง กินอาหารเช้าเสร็จก็ไปกันที่ท่าเรือ ถ่ายรูปกันเล่นเล็กน้อยระหว่างรอเรือออก แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เจอแต่คนญี่ปุ่นอ่ะ เยอะมากๆ หัวดำอย่างเราก็เลยเนียนๆก็เค้าไปด้วย ไม่เหมือนอยู่ Australia เลย



พอขึ้นเรือไป เรือลำใหญ่ใช้ได้ โอ้โห... ไอ้ที่เค้าบรรยายนู่นนี่การใช้อุปกรณ์อะไรต่างๆก็เป็น อังกฤษ แล้วญี่ปุ่น แล้วต่อด้วยภาษาจีน พี่ไทยอย่างเราไม่ค่อยจะมีในเมืองนี้เท่าไหร่ เรือลำใหญ่จะไปแวะที่ Green Island รับ ส่งคนแป๊บนึง แล้วก็ไปกันที่โป๊ะกลางทะเล ที่เค้าจะจอดให้เรากินข้าวกันบนโป๊ะนั่น แล้วก็มีกิจกรรมทั้ง ดำน้ำ snorkel นั่ง Semi-sub ห้อง Observatory เรียกว่า ใครใคร่เปียกน้ำดูปะการังก็เชิญ ใครไม่อยากเปียกก็มีให้ดูปะการังได้เหมือนกัน ตรงนี้แหละถูกจายยยยย เนื่องจากปุ๊ไม่ค่อยจะถูกโรคกะการว่ายน้ำหรือลงเรือซักเท่าไหร่

พอเรือออก เค้าก็บอกว่า วันนี้คลื่นแรง ใครมีอาการ Motion Sick หรือเมาเรือ เค้าก็มียา และถุงอ้วกไว้ให้ ดีที่ชาวเราซัดยากันมาเรียบร้อยแล้ว ก็เลยนั่งชิวๆ ซักพักก็เริ่มมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่นั่งแถวนั้นเอาถุงอ้วกออกมาใช้งานกันเป็นแถว ชาวเรากันเองก็แทบแย่ นี่ขนาดกินยากันมาก่อน ยังคลื่นไส้มากๆ นี่มันอะไรกันเนี่ยะ... 2 days in a row แล้วนะยะ

นั่งเรือไปหลายชั่วโมง ก็มาถึงโป๊ะ หรือ Pontoon ที่เค้าเรียกกัน ไอ้ pontoon นี่มันใหญ่ใช้ได้เลย มีสองชั้น พวกชอบอาบแดดก็ไปนั่งชั้นสอง มีห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ มีโต๊ะอาหาร อารมณ์คล้ายๆ Canteen ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เราลงจากเรือมาก็ไปที่ Observatory room กันก่อน ซึ่งก็อยู่ที่โป๊ะนั่นแหละ ขอพักให้หายมึนก่อนค่อยคิดว่าจะไปทำไรต่อ ขนาดเที่ยงกว่าเข้าไปแล้ว ยังไม่มีอารมณ์จะหิวกันเลย

ในห้อง Observatory room ก็ไม่มีไรมากหรอก เดินลงบันไดไปใต้น้ำ ก็เป็นผนังกระจกทั้งสองข้างให้ดูปลา ดูปะการัง แต่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ มันคงใกล้โป๊ะมากไปมั้ง ก็เลยเดินกลับขึ้นมานั่งรอกินข้าว ที่เค้าบอกว่าจะเริ่ม serve บ่ายโมง ระหว่างรอบีกะพี่อรก็เลยขอลงน้ำไป snorkel กันซักรอบก่อน พวกอุปกรณ์ต่างนี่ ทางเรือเค้ามีให้หมดเลย ส่วนใจป๊อดอย่างปุ๊ก็เลยนั่งรอ กินหนมที่ขนมาไปเรื่อยๆ ซักพักทั้งสองคนก็ขึ้นมา บ่นใหญ่ว่า คลื่นมันแรง ว่ายออกไปไกลๆไม่ค่อยได้ งั้น... กินข้าวเติมพลังกันก่อนละกัน อาหารนี่ก็อย่าไปคิดมาก กินๆเข้าไปกันตาย แต่กินเยอะไม่ได้ ไม่งั้นมีแหวะแน่ๆ

กินข้าวเสร็จก็ได้เวลาไปลงเรือ Semi-sub มันก็คือ เรือกึ่งๆเรือดำน้ำ semi-submarine นั่นเอง ลงไปในเรือแล้ว ตรงด้านข้างรอบเรือเป็นกระจกหมด มีตรงกลางเป็นที่นั่งให้เราชมปะการังและฝูงปลา ตรงนี้ก็ถ่ายรูปกันใหญ่ เนื่องจากเราไม่ได้ซื้อกล้องแบบถ่ายในน้ำมา ก็เลยต้องรีบถ่ายเอาตอนนี้





ขึ้นมาจาก Semi-sub ก็ได้เวลาลงน้ำกัน หลังจากที่ปุ๊ทำใจอยู่นาน ก็ยอมลง ไหนๆก็มาแล้วนี่ คงไม่ได้มากันอีกบ่อยๆ เอาวะ... ครั้งนึงในชีวิ๊ดดดด
คลื่นมันแรงมาก เราก็เลยว่ายออกไปไม่ได้ไกล เห็นแต่ปะการังใกล้ๆโป๊ะ ซึ่งไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ พี่อรบอกว่า ต้องไปไกลๆกว่านี้ถึงจะสวย แต่ว่ายออกไปไม่ถึงเหมือนกัน แต่สำหรับปุ๊แล้ว เอาเหอะ แค่นี้ก็สวยพอแล้วล่ะ ไม่ต้องไกลมากก็ได้ ว่าแล้วก็ขึ้นมาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อ นั่งกินหนม ถ่ายรูปดีกว่า ไม่ถูกกันเลยจริงจริ๊งงงง ไอ้การลงน้ำเนี่ยะ

บันไดจากโป๊ะลงไป snorkel จ้า



ขากลับทุกคนเตรียมพร้อม กินยากันอ้วกกันอีกรอบ ขึ้นเรือก็สลบไปตามๆกัน แต่รู้สึกว่าบีจะไปเก็บภาพบนดาดฟ้าเรือระหว่างที่ปุ๊กะพี่อรหลับมาด้วยนะ ดูรูปละกัน



หลังจากที่มาถึงฝั่ง เราก็ตัดสินใจขอเดินเล่นกันซักพัก เพื่อให้หายมึน เดินไปไม่ไกลจากท่าเรือจะเป็นถนนเลียบชายหาด ที่เค้าเรียกกันว่า The Promenade มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมสวยๆเต็มเลย โรงแรมของเราก็อยู่บนเส้นนี้เหมือนกัน แต่ไกลออกไปซะหน่อย ว่าแล้วก็ดูรูปเมือง Cairns (เมืองอ้วก) กันหน่อยนะคร้าบบบ






No comments: