Saturday, October 20, 2007

American Fried Rice

เคยสงสัยมั้ยคับว่า ข้าวผัดอเมริกันที่เราเคยกินกันทั่วไปที่บ้านเรา เวลาไปอเมริกาไม่เคยเห็นเลย แปลกดีเนอะ อยากรู้ว่าใครกันเป็นคนตั้งชื่อข้าวผัด ใครพอรู้ช่วยบอกด้วยนะคะ

วันนี้อยู่บ้านว่างๆ แถมเพิ่งจะออกเจ ก็เลยอยากกินโปรตีนเป็นอย่างมาก คิดไปคิดมา เอาเมนูนี้ละกัน ข้าวผัดอเมริกัน

ส่วนประกอบก็ไม่มาก เริ่มจาก ข้าว ซอสมะเขือเทศ น้ำมันหอย ซอสแม็กกี้ ไส้กรอก ไข่ แฮม ที่จริงปกติจะเห็นเป็นไก่ทอด แต่เนื่องจากขี้เกียจ ก็เลยใช้แฮมแทนค่ะ

ขั้นตอนก็ไม่ยาก
1. เริ่มจากทอดไข่ก่อน แต่เป็นขั้นตอนที่ปุ๊ไม่ชอบมากที่สุด เพราะเวลาทอดไข่ดาวน้ำมันจะกระเด็นเยอะสุดๆ นอกจากเจ็บตัวแล้ว ยังต้องเช็ดครัวอีก เหนื่อย...
2. ทอดไส้กรอกและแฮมให้เกรียมพองาม
3. ใส่ข้าวลงไปผัด เติมน้ำมันหอย แม็กกี้ และซอสมะเขือเทศ ผัดจนสีสวย ซอสเข้ากับข้าวดีแล้วก็ตักใส่จาน

แค่นี้ก็เสร็จพร้อมหม่ำแล้วจ้า...

Friday, October 19, 2007

เยี่ยมบ้านครูน้อย

และแล้ววันนี้ก็ได้กระโดดงาน ดึ๋ง ดึ๋ง... ไปบ้านครูน้อยมาล่ะค่ะ หลังจากที่วางแผนจะไปมาหลายอาทิตย์ แถมไปเรี่ยไรเงินคนในออฟฟิศมาไว้ตั้งหลายวันแล้ว แต่ก็งานยุ่งขึ้นมาซะงั้น เพิ่งจะสบโอกาสทะเลเรียบ ปราศจากคลื่น ปลอดจากแมวเล็ก แมวใหญ่ อิ อิ

เมื่อวานได้ไปซื้อพวกเครื่องเขียนมาเตรียมเอาไว้ไปแจกเด็กๆด้วย ซื้อมาจาก Platinum Mall ที่จริงเครื่องเขียนนี่เป็นข้ออ้างทำให้รู้สึกผิดน้อยลงหน่อยในการช้อป ช้อป ช้อปกระจายยยย hahaha...

การไปบ้านครูน้อยก็ไม่ยากเลย ขึ้นทางด่วนข้ามสะพานพระราม 9 ลงตรงทางลงสุขสวัสดิ์ กลับรถใต้ทางด่วน พอเจอถนนราษฎร์บูรณะก็เลี้ยวซ้ายขับไปเรื่อยๆจนเจอซอยราษฎร์บูรณะ 26 เลี้ยวเข้าซอยไปเจอทางแยกเลี้ยวซ้ายที ขวาที ก็เจอป้ายบอกว่า ถึงแล้ว บ้านครูน้อย เดินเข้าซอยเล็กๆที่กว้างแค่คนเดินเข้าไปก็จะเจอสนามเด็กเล่นที่มีคนใจบุญมาช่วยสร้างให้เด็กๆ และบ้านครูน้อย

พอก้าวเข้าไปในบ้าน พวกเราก็เจอครูน้อยตัวเป็นๆนั่งอยู่พอดี ครูก็ทักทายสวัสดี พาไปดูเด็กๆที่กำลังกินข้าวกลางวัน เด็กๆก็น่ารักมาก พอเราเข้าไปก็ สวัสดี กันเสียงดังฟังชัดมาเลย บ้านของครูน้อยไม่ใหญ่มากนัก แต่ครูใจกว้างเหลือเฟือที่รับเลี้ยงเด็กเกือบ 200 คน ระหว่างที่ครูน้อยเขียนใบเสร็จให้พวกเรา ครูก็เล่าเรื่องเด็กๆให้ฟัง บางคนก็แม่ติดยา บางคนแม่ก็ติดคุก เป็น HIV ก็มี แล้วก็เอาลูกมาทิ้งไว้ ฟังแล้วก็เศร้า แถมเดี๋ยวโรงเรียนจะเปิดเทอม ครูน้อยก็ต้องใช้เงินเยอะเพื่อจ่ายค่าเทอมให้เด็กๆ

ตอนที่เราจะกลับเด็กๆก็ร้องเพลงขอบคุณพวกเราอีก งานนี้เล่นเอาปุ๊กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว ตั้งใจว่า จะหาโอกาสไปช่วยเหลือเด็กๆที่บ้านครูน้อยอีกแน่ๆ

เด็กๆเค้ามีทำของเล็กๆน้อยๆขายเพื่อเอาเงินมาช่วยเลี้ยงดูเด็กๆในบ้านด้วยนะคะ มีกระเป๋าผ้ากิ๊บเก๋ และเสื้อ paint ลายน่ารัก กระเป๋าผ้านี่ราคาแค่ใบละ 40 บาทเอง วันนี้เราได้เห็นเด็กๆช่วยกันวาดลายกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนกันเยอะมาก เนื่องจากมีคนมาสั่งทำเป็นของชำร่วยแต่งงานด้วย ไอเดียเริ่ดมากๆ ใครจะเลียนแบบก็ไม่ว่ากันนะคะ ปุ๊ก็ซื้อมาใบนึงเหมือนกัน ที่ลายกระเป๋าจะลงชื่อคนวาดไว้ด้วย ครูน้อยบอกว่า เด็กที่วาดใบนั้นๆที่เราซื้อไปก็จะได้เงินส่วนแบ่งพิเศษไปด้วยล่ะ


และงานนี้ปุ๊ก็ไม่ได้เอากล้องไปอีกเช่นเคย แถมยังลืมโทสับมือตื๋อไว้ในรถอีกต่างหาก เลยไม่มีรูปบรรยากาศมาฝาก แต่ก็ขอเชิญชวนพี่ๆน้องๆเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่ http://www.moobankru.com/bankrunoi/bankrunoi.htm

ถ้าเราคิดว่าชีวิตเราลำบาก อยากให้ลองไปดูชีวิตเด็กๆพวกนี้ดูบ้างนะ แล้วจะรู้ว่า เรานี่โชคดีมาก แล้วก็อาจจะอยากที่จะช่วยเหลือคนที่เค้าด้อยโอกาสกว่าเรานะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่อ่านแล้วอยากจะไปช่วยเหลือเด็กๆที่บ้านครูน้อยค่ะ

Saturday, October 13, 2007

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ

วันนี้มีงานกีฬาสีของที่บริษัท ไปจัดกันที่ม.เกษตร ปุ๊ก็รับหน้าที่เป็น Costume and make up Stylist ให้กับเชียร์ลีดเดอร์ แถมไปเล่นกีฬาปัญญาอ่อนกะเค้าด้วย วันนี้เลยพกเครื่องสำอางจากบ้านไปเต็มพิกัด แต่งหน้าไป 6 คน เหนื่อยเอาการอยู่ ผลงานออกมาสวยงามกันมากๆ แต่ไม่มีรูปมาอวด ไว้รอกล้องของที่ office ก่อน

ที่ขำก็คือ ลูกสาวเจ้านาย ตัวเล็กๆ เห็นเค้าแต่งหน้ากันก็อยากสวยมั่ง มาขอแต่งด้วย แถมก็ได้เอาชุดเชียร์ลีดเดอร์ให้ใส่อีก ถูกใจน้องหนูเป็นการใหญ่ วิ่งไปรอบสนามกีฬาเชียร์สุดใจให้สีเหลือง ใช้งานลูกนายซะคุ้มเลย hahaha...

เอารูปมาให้ดูกันเล่นๆ เด็กคนโตชื่อ Chelsea ส่วนคนเล็กชื่อ Sofie น่ารักกันมากๆ ที่จริงมีเด็กผู้ชายอีกคน ชื่อ Brooklyn แต่คุณท่านวิ่ง rollerblade ไปมาตลอด จับตัวมาถ่ายรูปยากมาก เลยมีมาอวดแค่นี้อ่ะค่ะ



และที่สำคัญก็คือ สีเหลืองของเราชนะไป 3 รางวัล จากทั้งหมด 4 รางวัล มี Futsal, Cheer และ Funny Sports พลาดให้สีน้ำเงินไปอันเดียวคือ Chairball งานนี้เล่นเอานายและทีมงานปลื้มหน้าบานไปเลยทีเดียว

Wednesday, October 10, 2007

ทำบุญ ทำบุญ ทำบุญ

มาบอกบุญกันอีกแล้วค่ะ เมื่อวานได้ดูรายการ คนค้นฅน ทางช่อง 9 ได้พูดถึง ท่านผอ.สมประสงค์ มั่งอะนะ ของโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคมมาสองอาทิตย์แล้ว ทางโรงเรียนดูแลเด็กชาวเขาที่ยากจน และมีปัญหาทางครอบครัวเข้ามาอยู่ประจำที่โรงเรียน โดยมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากสำหรับค่าอาหารของเด็กนักเรียนสองร้อยกว่าคน ซึ่งงบประมาณที่ได้จากราชการก็ไม่พอที่จะเลี้ยงดูเด็กทั้งหมด

ทางโรงเรียนเค้าเลยจัดโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ และโครงการอื่นๆอีกหลายโครงการ ดูแล้วก็สงสารและรู้สึกผิดเล็กน้อย โครงการอุปถัมภ์เด็ก 1 คน เป็นเงิน 3,600 บาท ซึ่งเด็กสามารถใช้ได้ทั้งปี แต่เราเอาไปซื้อรองเท้าได้คู่เดียวเอง แหะ แหะ...

ใครสนใจก็เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://umphangs.com/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=20

แล้วก็สำหรับคนที่ใช้เบอร์ของ DTAC สามารถโหวตให้ผอ.สมประสงค์ได้โดยพิมพ์ D 1 (D เว้นวรรค 1) แล้วส่งไปที่ 8080 ผู้ที่ได้ผลโหวตมาสุด DTAC จะให้เงินช่วยเหลือ 1,000,000 บาท แถมโหวตฟรี ไม่เสียเงินเลยค่ะ

Tuesday, October 2, 2007

ทำงาน ทำงาน ทำงาน

กลับมาทำงานได้ 2 วันแระ แต่เหมือนว่าอะไรๆก็จะไม่ค่อยเป็นใจ มาถึงวันแรกคอมพ์ก็เจ๊ง ต้องส่งไปให้ Helpdesk แก้ให้ วันนี้เข้า training ดินสอก็ไส้หมด ไม่ให้จดซะงั้น เอ้า... ไม่ทำก็ไม่ทำ ไปเดินช้อปปิ้งตอนกลางวันสบายใจคุณนายปุ๊ดีก่า อิ อิ อิ

ขอแอบเม้าท์นิ๊สนึง วันนี้จู่ๆบีก็ถามมาว่า อยากจะทำ Grilled Ham Cheese Sandwich (แบบที่ปุ๊เคยทำกิน ตอนอยู่ที่นู่น) แล้วกะทะอยู่ไหน แล้วเตาใช้ยากป่าว เอิ่ม... คือว่า บีก็กลับไปแมวเบิ้นตั้งหลายอาทิตย์แล้ว แล้วนั่นมันก็บ้านบีมิใช่เรอะ คำถามแบบนี้ สมแล้วที่เป็นแค่คนเฝ้าบ้านพักตากอากาศให้คุณนาย คำถามแบบว่า บีโคดๆ คือ ไม่เคยสังเกตุอะไรเลย

มีอยู่ทีนึง ซึ่งก็หลายปีมาแล้ว สมัยที่ปุ๊และน้องแก้วยังทำงานด้วยกันกะบีอยู่ที่ไอ้บริษัทที่ชื่อขึ้นต้นด้วย A อ่ะ วันนั้นวันเกิดบี พวกเราก็วางแผนกันว่าจะ surprise เค้กวันเกิดกัน ปุ๊กะน้องแก้วก็รับหน้าที่ขับรถไปรับชีสเค้กที่สั่งเอาไว้ โดยที่ในตอนนั้นบีไปประชุมหรืออะไรนี่แหละ กลับมาเราก็จัดการเอาชีสเค้กเปิดกล่อง เอาไปวางไว้บนโต๊ะบีเลย ทุกคนในห้องก็ทำฟอร์มไม่รู้ไม่ชี้ ทุกคนก็ทำเนียนนั่งทำงานกันตามปกติ แต่คอยดูว่าบีจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบยังไงบ้าง ปรากฎว่า พวกเราก็นั่งรอ รอ รอ แบบว่า เฮ้ย... มันกลับมาที่โต๊ะ แล้วมันนั่งเฉย ทุกคนเลยทนไม่ได้ขึ้นมาพร้อมๆกัน มันมองไม่เห็นเค้กหรือไงฟระ จนต้องมีคนพูดขึ้นมา "เอิ่ม.. บี คือว่า เค้กอ่ะ วันเกิด" นั่นแหละ บีถึงได้ "อ้าว.. เหรอ" คุณนายแทบจะเอาหัวโขกโต๊ะ แต่ไม่ได้ทำเพราะจะเสีย look ไปนิ๊ส คือวันนั้นวันเกิดตัวเอง แล้วมีเค้ก 2-3 ปอนด์วางอยู่ พี่แกเฉยมาก จนต้องถาม "เฮ้ย.. ไม่เห็นเค้กเหรอ" บีบอกว่า "ก็เห็น อืม.. เค้ก แต่ก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดไร" โอ้.. โน นี่ยังดีนะ มันไม่คิดว่า เกะกะ เอาไปโยนทิ้ง เฮ้อ.. บีเป็นคนที่ช่างสังเกตุมากๆ

ยังมีอีก เมื่อไม่นานมานี้ที่แมวเบิ้น บีและเพื่อนๆที่ทำงานไปกินข้าวกลางวันที่ร้านจีน ร้านก็แคบๆ โต๊ะก็แทบจะเกยกัน บีก็นั่งติดกะโต๊ะข้างๆที่มีชายหนึ่ง หญิงหนึ่งนั่งกันอยู่ กินกันอยู่นาน จนโต๊ะนั้นเค้ากินเสร็จ เค้าก็ประมาณพูดภาษาไทย บีก็พูดกะทุกคนในโต๊ะว่า อ้าว.. โต๊ะนั้นเค้าคนไทยอ่ะ เท่านั้นแหละ ทุกคนในโต๊ะนี่ร้อง หูยยยย พี่ ทุกคนเค้ารู้มาตั้งนานแล้ว ก็นั่งกินข้าวมาตั้งนานเค้าก็ได้ยินกันหมดแล้วทั้งโต๊ะ พี่นั่นแหละ นั่งติดกะเค้าแท้ๆ ไม่ได้รู้เรื่องเล้ยยยย

วันนี้จั่วหัวว่า ทำงาน แต่ไหงกลายเป็นเม้าท์เรื่องบีไปซะงั้น คิกๆๆ ว่าจะเม้าท์นิ๊สเดียวนะเนี่ย