Monday, September 10, 2007

นายแม่ อิน ออสซี่ ตอนที่ 4.1 - เมือง"อ้วก"

อย่าตกใจไปคับว่าไอ้เมืองชื่อนี้มันมีในแผนที่โลกด้วยเหรอ แหะ แหะ... ที่จริงคือ เมือง Cairns อยู่รัฐ Queensland ทางตอนบนของ Australia อากาศอุ่นกว่าที่ Melbourne พอตัว ที่นี่เราตั้งใจจะไปดู Great Barrier Reef กัน

คืนวันพะหัด ปุ๊กะบีก็ออกเดินทางจาก Melbourne โดยมีพี่อรสรวงตามไปสมทบอีกคนจาก Sydney ไปพักกันที่ Rydges Tradewinds, Cairns ที่บอกชื่อโรงแรมไว้นี่ ตั้งใจจะบอกว่า ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คิดจะไปเที่ยวกันละก็ อย่าไปนะ ดูในเว็บมันบอกว่า 4.5 stars hotel พอไปถึงจะเป็นลม ราชนิกูลขอให้แค่ 1.5 ดาวก็พอ ไปถึงก็ต้องไปทะเลาะกะมันเรื่องเตียงเสริมที่ขอไว้ แถมตอน check out ก็ทะเลาะเรื่องเก็บเงินค่า Airport Transfer อีก จะบ้าตาย...

เมือง Cairns นี้เป็นเมืองเล็กๆ เมืองท่องเที่ยวที่ไปทางไหนก็เจอแต่คนญี่ปุ่นเต็มไปหมด ป้ายร้านค้าก็มีภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด เดินเที่ยว เค้าก็จะทักเราสามคนเป็นภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า เห็นหัวดำๆ ก็คิดว่า ไม่ญี่ปุ่น ก็จีนไว้ก่อน ใส่ภาษากันใหญ่ ฟังไม่ออกซักอัน

เราไปที่ Cairns กัน 3 วัน ไปถึงกันคืนวันพฤหัส กลับเย็นๆวันอาทิตย์ วันศุกร์ก็เป็นวันแรกที่เราจะเที่ยวกัน ตามโปรแกรมที่พี่อรกะบีช่วยกันวางแผนไว้ ปุ๊เนี่ยะ เป็นแผนกหนับหนุนเฉยๆ แถวบ้านเรียกว่า ขี้เกียจก็ได้ ช่วยนี้หยุดงาน สมองก็พลอยหยุดงานชั่วคราวไปด้วย เราก็วางแผนกันว่า วันศุกร์จะไป Daintree rainforest ที่เป็นหนึ่งใน World Heritage วันเสาร์จะไปดู Great Barrier Reef ที่เป็น another World Heritage ส่วนวันอาทิตย์ วันสุดท้ายจะไปนั่ง Sky Rail ดูป่า World Heritage อีกแล้ว แถวนี้มัน World Heritage เยอะจริงๆ

การจะไป Daintree Rainforest ก็ต้องขับรถออกไปไกลพอควร ผ่านเมืองเล็กๆ เราก็แวะกินข้าวเช้ากัน แล้วไปต่อผ่าน Port Douglas ที่เค้าว่าเป็นเมือง Celebrity Hideaway ไร่อ้อย แล้วก็ข้ามเรือ Ferry แล้วขับรถต่อขึ้นเขา จุดเด่นของ Daintree Rainforest คือ มันเป็นป่าทึบที่อยู่ติดกับทะเล เก๋าอยู่... ป่ากะทะเล ในที่เดียวกัน

และจุดเริ่มต้นของเมืองอ้วกก็เริ่มขึ้น ทางที่ขึ้นเขานี่แหละ โค้ง คดเคี้ยว ลัดเลาะไปตามภูเขา เล่นเอาปุ๊และพี่อร มึนไปตามๆกัน ส่วนบีไม่ค่อยเป็นไรมาก เพราะเป็นคนขับ เราขับขึ้นเขา แวะกันไปเรื่อยๆ เพื่อเดินสูดอากาศให้หายมึนกันเป็นระยะๆ โดยจุดมุ่งหมายคือที่อยู่เหนือสุดของ Daintree เป็นชายหาดชื่อ Cape Tribulation ซึ่งว่ากันว่า สวยมาก ดูรูปจากในหนังสือก็สวยอยู่

ดูรูปกันก็แล้วกันนะ

ท่าเรือ Ferry ข้ามแม่น้ำ Daintree River (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ)

ป้ายเตือนที่ท่าเรือ Ferry

ดูกันอีกทีชัดๆ ชาละวัน ชา ลา ลา ช่า ช่า


แล้วก็เริ่มเข้า Daintree Rainforest

ผ่านป่า ภูเขามาหลายลูก
แล้วก็เจอจุดชมวิวแรก ตามที่แผนที่จากเน็ทบอกไว้ แต่วันนั้นเมฆเยอะมาก พยากรณ์บอกว่า ฝนตก เอาไว้ขากลับมาแวะอีกรอบอาจจะดีกว่านี้
แวะร้านไอติม มีไอติมรสประหลาด คนขายเอาแต่ใจมากๆ บอกว่า ขายแบบเนี้ยะ ถ้วยละ 4 ลูก 4 รส ไม่ตักแยก เค้าหยิบมาให้ 3 ถ้วย คงคิดว่า เรามากันสามคน เลยเอามาให้แบบนั้น กะเหรี่ยงเลยบอกไปอย่างมุ่งมั่นว่า เอามาถ้วยเดียวพอ ช้อนสาม ไม่งั้นกินเข้าไปเยอะๆนี่ มันจะออกมาแน่ๆ
หลังจากผ่านมาอีกหลายเขา เราก็มาถึง Cape Tribulation

ชอบป้ายเตือนประเทศนี้จริงๆ ฮาโคดๆ
วันที่เรามาอากาศไม่ค่อยดี ฟ้าไม่ใส น้ำทะเลก็ออกจะดำๆ เหมือนมีทรายสีดำๆพัดเข้ามาด้วย เซ็งอ่ะ ไม่เหมือนที่โคสะนาเลย แต่อย่างน้อย การได้เดินริมหาดซักพัก ดูป่าโกงกาง ก็พอจะช่วย re-charge battery แก้อาการคลื่นไส้ มึนๆได้พอตัว ก่อนจะต้องกลับลงไปวนเวียน คดเคี้ยว ลดเลี้ยวกันอีกตอนขากลับ











ต้นไม้หน้าตาประหลาด เหมือนยีราฟ อิ อิ
แวะมาจุดชมวิวที่เดิมชื่อว่า Alexandra Range Lookout อีกรอบ คราวนี้ฟ้าใสขึ้นแล้ว

ขากลับก็แวะกินข้าวกันที่ Port Douglas มื้อเย็นนี่ปุ๊กินไม่ลงเลย พะอืดพะอม ปวดท้องไปเลย เซ็งคับ... แล้วก็กลับไปโรงแรมที่ซุกหัวนอนของชาวเรา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ "อ้วก" version 2

No comments: