Saturday, April 28, 2007

ปลื้มมมมมม

วันนี้เปลี่ยนจากเรื่องอาหาร เรื่องเที่ยว มาเป็นเรื่องดีๆแบบงานบุญกันบ้างนะ

เรื่องมีอยู่ว่า เก่ง คุณน้องชาย (หรือไอ้ลูกชาย หรือน้องยักษ์ ที่ชาวเราเคยได้ยินชื่อกัน) บวชที่วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี วัดนี้อยู่ใกล้บ้านมากๆ ตรงข้ามกัน แค่ข้ามแม่น้ำไปก็ถึง เมื่อวันที่ 13 เมษา วันสงกรานต์พอดี และปุ๊ก็ไม่อยู่พอดี บังเอิญเพิ่งจะมาดูฤกษ์บวช ฤกษ์สึกแล้วได้วันนั้น ไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวอะไรกันมากนัก ปุ๊เองเปิดเมล์จากน้องตอนอยู่แมวเบิ้น หน้าจ๋อยลงทันที อยู่ในโหมดจ๋อยไปนานประมาณนึงเลย แน้ชต้องมาคอยปลอบ

นั่นล่ะ วันบวชก็ไม่ได้ไป กลับมาจากแมวเบิ้นปั๊บก็รีบไปวัด ได้ไปสรงน้ำพระวันที่ 17 พอดี ปลื้มใจ น้ำตาคลอเลย ได้เห็นชายผ้าเหลืองของน้องชายที่เราเลี้ยงมา บวชไป 15 วัน แล้วก็มาถึงวันสึก เมื่อวันพฤหัส 26 เมษา ปุ๊ก็ได้ลางานไปงานสึกของน้อง (แอบมีคนไม่พอใจบ้างเล็กน้อยแต่ไม่สน จะลา เรื่องมากนัก เดี๋ยวก็ลาออกซะ หมดเรื่อง สวยเลือกได้... ขอบอก)

งานสึกปกติก็ไม่ได้มีพิธีการใหญ่โตอะไรมากมายเมื่อเทียบกับงานบวช แต่เราก็อยากทำบุญกัน ก็เลยเลี้ยงเพลหลังจากที่พระน้องสึกมาแล้วด้วย

ดูรูปกันดีกว่านะ พระเก่ง มีฉายาว่า พระสิริปุญโญ
เริ่มจากพระน้องไปลาสิกขาบท มีฤกษ์ 9.09 น. คุณยายบอกว่า ฤกษ์สึกเนี่ยะสำคัญกว่าฤกษ์บวชอีกนะ สึกออกมาแล้วจะดี ประสบความสำเร็จหรือไม่ฤกษ์ก็มีส่วน เชื่อไว้ไม่เสียหายเน๊อะ




แล้วก็มากราบลา ถวายดอกบัว ธูปเทียน ที่เห็นส่งดอกไม้ธูปเทียนให้พระนั่นมิใช่เด็กวัดที่ไหน พุงกลมๆนั่นน่ะ พระบิดาของเดี๊ยนเองค่ะ อิ อิ อิ...




หลังจากนั้นพระท่านก็จะให้ถอดจีวร แล้วไปอาบน้ำมนต์ แต่งตัวใหม่ ด้วยชุดใหม่เอี่ยม ส่วนจีวรท่านก็จะถามว่า เราจะถวายไว้ที่วัดเป็นส่วนกลางมั้ย ซึ่งแม่ก็บอกท่านว่าถวายให้เป็นส่วนกลางของวัดไว้แล้วก็มาสวดมนต์อีกรอบ


เสร็จแล้วก็ให้เดินออกจากวัด โดยมีเคล็ดว่า ต้องให้เด็กผู้หญิงเป็นคนจูงเดินออกผ่านประตูวัด แล้วห้ามหันหลังโดยเด็ดขาด ก็เลยได้น้องเมย์ อายุประมาณสิบขวบ มาช่วยในขั้นตอนนี้ โดยมีปุ๊และแม่เดินตามเงียบๆอยู่ข้างหลัง



ออกจากวัดแล้วก็กลับบ้านไปไหว้บรรพบุรุษที่บ้าน เอาบุญไปฝาก แล้วก็กลับมาที่วัดอีกทีมาเลี้ยงเพลกัน ช่วงเลี้ยงเพลไม่ได้เก็บรูปมาเพราะญาติเยอะ มัวแต่รับแขกอ่ะนะ งานนี้พูดได้คำเดียวว่า ปลื้มมมมมมม

No comments: